กินเจภูเก็ต 2558

   ความตั้งใจของนักเดินทางทั้งหลายที่มาเยือน ภูเก็ต นอกจากเดินทางมาเพื่อซึมซับบรรยากาศของทะเลหาดทรายอันงดงามแล้ว การมาเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ทั้งทางศิลปะและวัฒนธรรม ไปจนถึงงานเทศกาลประเพณีประจำปีก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของการเดินทางมาเที่ยวเกาะภูเก็ตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในแต่ละปี โดยเฉพาะในช่วงราวเดือนตุลาคมของทุกปี หากนักท่องเที่ยวได้มาเยือนภูเก็ตเป็นครั้งแรก อาจรู้สึกแปลกใจที่ชาวภูเก็ตแทบทั้งเมืองแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวทั้งที่บางคนหน้าตาดำเข้มไม่เหมือนชาวจีนทั่วไปเลย นั่นหมายถึง ประเพณีถือศีลกินผัก(กินเจ)จังหวัดภูเก็ต ตามประเพณีของชาวภูเก็ตที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
     เดิมประเพณีกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) ที่ชาวบ้านและชาวจีนที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตเรียกกันว่า "เจี๊ยะฉ่าย" นั้น เป็นลัทธิเต๋าซึ่งนับถือบูชาเซียนเทวดา เทพเจ้า วีรบุรุษ เป็นประเพณีที่คนจีนนับถือมาช้านาน โดยเฉพาะคนจีนฮกเกี้ยน คำว่า "เจี๊ยะฉ่าย" (กินผัก) เป็นภาษาท้องถิ่น วันประกอบพิธีตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ (เก้าโง้ยโฉ่ยอีดถึงโฉ่ยเก้า) ตามปฏิทินจีนของทุกๆปี

         
               พิธีกรรมในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต

พิธีป้างกุ้น ( พิธีเชิญทหารเพื่อรักษาปริมณฑลงาน ) พิธีกรรมชิญทหารมารักษาบริเวณงานกินผัก มี 5 ทิศ ได้แก่ หล่ำเอี๋ย คือทิศใต้ ธงสีแดงเป็นสัญลักษณ์ มีทหารจำนวน 88,000 คน ปักเอี๋ย คือทิศเหนือ ธงสีดำเป็นสัญลักษณ์ มีทหารจำนวน55,000 คน ตั่งเอี๋ย คือทิศตะวันออก ธงสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ มีทหารจำนวน99,000 คน ไซ้เอี๋ย คือ ทิศตะวันตก ธงสีขาวเป็นสัญลักษณ์ มีทหารจำนวน 66,000 คน ตงเอี๋ย ทัพหลวง ธงสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ มีทหารจำนวน 33,000 คน

พิธีโข้กุ้น (พิธีเลี้ยงอาหารทหารที่รักษาบริเวณปริมณฑล) พิธีการเลี้ยงทหาร ซึ่งจะทำพิธี 3 ค่ำ 6 ค่ำ และ 9 ค่ำ ของงานประเพณี ประมาณ 15.00 น.จึงเริ่มพิธีจะมีการเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงทหาร และมีหญ้าหรือพวกถั่ว เพื่อเป็นอาหารของม้า

พิธีส่งเก๊ง การสวดมนต์ โดยจะเริ่มทำการสวดมนต์ตั้งแต่เมื่อองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ เข้าประทับในอ๊าม (ศาลเจ้า) ทำพิธีสวดวันละ 2 ครั้ง เป็นลักษณะการสวดมนต์เช้าและสวดมนต์เย็น โดยเฉพาะกลางคืนหลังจากสวดมนต์ซึ่งใช้บทสวด คือ ปักเต้าเก็ง ก็จะมีการถากส่อ คือการอ่านรายชื่อของผู้ที่เข้าร่วมกินผักต่อหน้าแท่นบูชาองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่

พิธีป่ายชิดแช (พิธีบูชาดาว) มักจะทำในคืนก่อนพิธีอิ้วเก้ง เป็นพิธีขอพลังจากดาว เพื่ออวยพรให้คุ้มครอง ในพิธีนี้จะมีการแจกฮู๋ ( ผ้ายันต์ )




การเล่นประทัด การเล่นประทัดเพื่อต้อนรับขบวนแห่ ควรจุดประทัดและวางบนพื้นก่อนขบวนแห่มาถึง และ จุดประทัดโยนใส่ไท่เปี่ย(เสลียงเล็ก) ได้แต่ห้ามจุดประทัดใส่หนิวสั่ว (ร่มฉัตรจีน)

พิธีอิ้วเก้ง เป็นการออกเยี่ยมขององค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ เพื่ออวยพรให้กับประชาชนทั่วไป โดยมีขบวน ธงและป้ายชื่อแห่นำหน้า ต่อด้วยเสลี่ยงเล็ก( ไท่เปี๋ย ) จากนั้นเป็นขบวนของหนิ่วสั่ว(ร่มฉัตรจีน) ตามด้วย ตั่วเหลี้ยน (เสลี่ยงใหญ่) ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ ประชาชนควรคุกเข่าและอยู่ในอาการสงบนิ่งเพื่อรับพรจากองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ ในขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้าน

พิธีโก้ยโห้ย (พิธีลุยไฟ) พิธีกรรมเพื่อชำระความสกปรกของร่างกายให้บริสุทธิ์

พิธีโก้ยห่าน (พิธีสะเดาะเคราะห์) ทำหลังจากพิธีลุยไฟ พิธีกรรมนี้ทำที่อ๊าม โดยผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ตัดกระดาษเป็นรูปแทนตัวเอง พร้อมเงินตามศรัทธาและต้นกุ๊ยฉ่าย 1 ต้น เดินข้ามสะพาน ให้ผู้ประทับทรงประทับตราด้านหลังของเสื้อที่สวม เรียกว่า ต๊ะอิ่น หมายถึงผู้ที่ผ่านการสะเดาะห์เคราะห์แล้ว

พิธีส่งพระ ทำในวันสุดท้ายของงานกินผัก ตอนกลางคืนจะมีการส่งองค์หยกฮ๋องซ่งเต่ ซึ่งมักส่งกันที่หน้าเสาโกเต้ง ก่อนห้าทุ่ม กลับสวรรค์ หลังจากนั้น ก็มีการส่งองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ (หลายอ๊ามจะส่งที่ชายทะเลสะพานหิน เมื่อขบวนส่งพระออกพ้นประตู ไฟทุกดวงในอ๊าม (ศาลเจ้า) ต้องดับสนิทและปิดประตูใหญ่วันรุ่งขึ้นทุกอ๊าม (ศาลเจ้า) จะพิธีลงเสาโกเต้ง และสิ้วกุ้น ( เชิญทหารกลับกรมกอง)






               โดยประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ปี 2558 นี้จะจัดขึ้น
  • ตรงกับวันที่ 13 - 21 ตุลาคม 2558   ซึ่งผู้เข้าร่วมพิธีจะต้องถือศีลอย่างเคร่งครัดจำนวน 10 ข้อ ในระหว่างประเพณีถือศีลกินผัก ในแต่ละศาลเจ้าจะมีพิธีซึ่งจัดขึ้นเพื่อบูชาและอัญเชิญองค์เทพลงมาเป็นประธานในงานถือศีลกินผัก ปัจจุบันประเพณีเจี๊ยะฉ่าย (กินผัก) ของชาวภูเก็ตได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาทุกปีนับเวลาได้ หลายร้อยปีแล้วซึ่งถือว่าเป็นประเพณีอันดีงามของชาวภูเก็ต